ความแตกต่างจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่ได้ขายดีจากโปรโมชันเพียงอย่างเดียว

ความแตกต่างจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่ได้ขายดีจากโปรโมชันเพียงอย่างเดียว

15 ธันวาคม 2565

“ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ” นี่คือคำกล่าวของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับโลกที่ได้แสดงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจในการลงทุนหรือทำธุรกิจว่า อย่าดูแต่ราคา แต่ให้มองว่า สิ่งที่เลือกที่จะทำนั้นมีโอกาสเติบโตมากขึ้นจากสิ่งที่จ่ายไปหรือไม่

จากการวิเคราะห์จากหนังสือเจาะเทรนด์โลกปี 2023 ของ TCDC คาดการณ์ว่า ปี 2023 จะเน้นเรื่องการลงมือทำเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา และหาโอกาสที่จะยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น (CO-TOPIA) ด้วยการเข้าถึงโลกดิจิตอลผ่านเครื่องมือและสื่อต่าง ๆ เราสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น แต่การรักษาไว้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงไม่สามารถคิดเพียงแค่คุมค่าใช้จ่าย บางครั้งเราต้องคิดเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของเรา ด้วยการทำให้เกิดคุณค่าในสายตาผู้ซื้อมากขึ้น

ในเมื่อธุรกิจส่วนใหญ่ลงทุนกับการหาลูกค้าเพิ่มด้วยวิธีใหม่ ๆ เสมอ ไม่ว่าจะออนไลน์ ผ่านการทำ LIVE หรือยิงโฆษณา ทักมาที่เพจ หรือออฟไลน์ที่มาที่หน้าร้านแล้วจ่ายเงินด้วยเงินสดหรือผ่านแอป แต่ตัวการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างความแตกต่าง (Value Added to products/services) เพื่อให้ธุรกิจมีคุณค่าเพิ่มเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกัน กลับไม่ได้รับความสำคัญเท่ากับวิธีการเข้าถึงลูกค้า เราจึงต้องหาทางสร้างข้อแตกต่างที่โดดเด่นที่ทำให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ ซึ่งมีพื้นฐานหลักอยู่ 2 วิธี ได้แก่

ช่วงโควิดถึงปัจจุบัน หัวข้ออีคอมเมิร์ซ มีคนค้นหามากกว่าหัวข้อการค้นคว้าและพัฒนา มาเสมอ

จากภาพจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ช่วงโควิดถึงปัจจุบัน หัวข้ออีคอมเมิร์ซ มีคนค้นหามากกว่าหัวข้อการค้นคว้าและพัฒนามาเสมอ

1. การสร้างเรื่องเล่าให้กับธุรกิจ

เมื่อของที่มีรูปลักษณ์ และฟีเจอร์ที่เหมือนกันวางคู่กัน สิ่งที่ต่างคือมูลค่าของแบรนด์ แต่การสร้างแบรนด์นั้นใช้เวลา คุณจึงจำเป็นต้องคิดถึงการดำเนินการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ส่งผลถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างชัดเจน (Brand Identity) เช่น วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต, ขั้นตอนการผลิต, ประโยชน์ของสินค้าที่มีต่อกลุ่มเป้าหมาย, ไอเดียที่มาของสินค้า, แพคเกจจิ้ง สิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาสื่อสารให้กับกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบเรื่องเล่าที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจ

2. ฟีเจอร์หรือจุดขายของตัวสินค้าและบริการที่โดดเด่น

“ไม่ใช่แค่ดี แต่ต้องดีกว่าของเดิม” นี่คือความคิดเริ่มต้นของการพัฒนาสินค้าที่ธุรกิจทุกธุรกิจต้องพิจารณาเสมอ เมื่อตัดสินใจที่จะสร้างจุดขายให้ดีขึ้นจากจุดเดิม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณลองเปลี่ยนมุมมองว่าอาหารคือสิ่งที่ทำให้อิ่ม และเป็นผลดีต่อสุขภาพขึ้น การคิดพัฒนาสูตรและวัตถุดิบตั้งต้นก็จะเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น นมวัวช่วยเพิ่มโปรตีน แคลเซียมกล้ามเนื้อ แต่ในนมวัวมีน้ำตาลแลคโตสที่ส่งผลให้กับผู้ดื่มบางคนมีอาการปวดท้อง ท้องอืด หรือท้องเสีย ซึ่งเมื่อเราเปลี่ยนมุมมองที่อยากให้คนแพ้น้ำตาลแลคโตสมีสุขภาพที่ดีขึ้น นมสูตรแลคโตสฟรี (Lactose free) จึงเกิดขึ้น เมื่อเรามองถึงการพัฒนาจุดขายให้แตกต่าง และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น สินค้าและบริการของเราก็จะแตกต่าง และตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเดิมหรือกลุ่มใหม่ที่คุณต้องการได้มากขึ้น

สร้างเรื่องเล่าให้กับธุรกิจ พร้อมฟีเจอร์หรือจุดขายของตัวสินค้าพร้อมบริการที่โดดเด่น

และด้วยความคิดที่จะพัฒนาบริการที่โดดเด่น และตอบโจทย์กับการดำเนินชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น

จากการที่ คาร์ ฟอร์ แคช เป็นรีไฟแนนซ์รถยนต์ ที่ให้บริการมากว่า 20 ปี เราเข้าใจว่า เงินก้อนเพื่อการทำธุรกิจ หรือ การรีไฟแนนซ์เพื่อการรวมหนี้ นั้นบางครั้งไม่ได้เพียงพอ จากการที่ค่าใช้จ่ายที่เร่งด่วนเกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผนสำรองเอาไว้ เราจึงคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ชื่อว่า คาร์ ฟอร์ แคช พร้อมใช้ ที่เป็นสินเชื่อรถยนต์แบบใหม่ที่ต่างจากเดิม โดยคุณจะได้รับทั้งเงินก้อนที่สามารถใช้ในการลงทุนหรือเคลียร์ค่าใช้จ่ายที่กระจัดกระจาย และวงเงินสำรองที่ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ที่รับวงเงินเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ชำระค่างวดในแต่ละครั้ง ดอกเบี้ยเท่าเดิม เบิกได้ผ่านไลน์ ไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่ม

เพราะเรารู้ว่า คุณอยากเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตหรือทำธุรกิจในทิศทางที่ดีขึ้น

ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้เงินก้อน พร้อมต้องการความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต คิดถึง คาร์ ฟอร์ แคช พร้อมใช้ ดูข้อเสนอและติดต่อเราได้ที่ : (Link)