
รู้จักประเภทดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมวิธีเลือกอย่างไรให้คุ้มค่า
15 ธันวาคม 2565
เวลาที่เรายื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ ที่นำเล่มรถไปขอกู้เงิน หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราใช้ประกอบการตัดสินใจนั้น ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยของไฟแนนซ์ หลายคนมักมองหาสินเชื่อที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ มองว่ายิ่งต่ำยิ่งดี ยิ่งคุ้มค่า แต่ในความเป็นจริงแล้วดอกเบี้ยไม่ได้วัดกันที่อัตราเพียงอย่างเดียว สินเชื่อรถยนต์แต่ละแบบก็จะมีประเภทสินเชื่อที่แตกต่างกันไป มีข้อเสนอและระยะเวลาที่ต่างกัน ในการเลือกยื่นขอสินเชื่อรถยนต์แต่ละแบบ เราควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
วันนี้กรุงศรี ออโต้ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักประเภทของดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์แต่ละแบบ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงมีวิธีการเลือกสินเชื่อรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า และเหมาะสมกับเราอย่างแท้จริง
ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์มีกี่ประเภท?

ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมี 2 ประเภท ได้แก่
1. ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
เป็นดอกเบี้ยที่จะคำนวณใหม่จากเงินต้นที่เหลือจริงในแต่ละงวด กล่าวคือ เมื่อมีการชำระเงินต้นเข้ามาทุกงวด ก็จะถูกนำไปคำนวณใหม่ ตัดจำนวนเงินต้นลง และคิดดอกเบี้ยใหม่จากเงินต้นที่ลดลง ทำให้ดอกเบี้ยในงวดถัด ๆ ไปจะถูกลงตามเงินต้นไปด้วย ดอกเบี้ยรูปแบบนี้คือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนเล่มทะเบียน
เช่น เรานำรถไปแลกเงินกู้ยืมเงินมา 200,000 บาท ดอกเบี้ย 1.5 เปอร์เซ็นต์ งวดที่ 1 เราจ่ายค่างวด 5,000 บาท ทำให้เงินต้นเหลือแค่ 195,000 บาทในงวดที่ 2 นี้ ดอกเบี้ย 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ที่คิด ก็จะคิดจากเงินต้น 195,000 บาท ทำให้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นถูกลงตาม ๆ กันไป
สินเชื่อประเภทดอกเบี้ยลดต้นลดดอกแบบนี้เหมาะกับใคร?
สินเชื่อที่ใช้ดอกเบี้ยประเภทนี้เป็นสินเชื่อที่เปิดโอกาสให้เราจ่ายหนี้ได้หมดไวขึ้น เพราะสามารถโปะเงินก้อน จ่ายค่างวดมากกว่าที่ธนาคารกำหนด เหมาะกับคนที่ต้องการเงินทุนฉุกเฉินมาลงทุนหรือเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน หมุนเวียนธุรกิจ และสามารถหาเงินมาโปะชำระหนี้ให้หมดได้ไว ยิ่งโปะเยอะยิ่งหมดเร็ว ยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อย หากเรามีความสามารถในการหาเงินมาชำระหนี้ได้เร็ว เลือกสินเชื่อที่ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกก็จะตอบโจทย์มาก
2. ดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate)
ดอกเบี้ยรูปแบบนี้จะคิดดอกเบี้ยครั้งเดียวจากเงินต้นทั้งก้อนตั้งแต่วันที่ทำสัญญา โดยใช้อัตราที่คงที่ตลอดอายุสัญญา ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนเงินต้นลดลงไปเรื่อย ๆ ก็จะไม่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่เหมือนดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ดอกเบี้ยรูปแบบนี้มักจะใช้กับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบโอนเล่มทะเบียน
การคิดสินเชื่อรูปแบบนี้ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยต่อปีจากเงินต้นก่อน แล้วค่อยมาคิดดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละงวด ยกตัวอย่างเช่น เรายื่นขอสินเชื่อรถแลกเงินมูลค่า 400,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ 4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ระยะเวลาผ่อน 5 ปี หรือ 60 เดือน ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด ด้วยการนำ
เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x ระยะเวลา (ปี) = 400,000 x 4% x 5 ปี = ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด 80,000 บาท
คิดจำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละงวด ด้วยการนำ (เงินต้น + ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด) / จำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมด = (400,000+18,000)/60 = ผ่อนชำระงวดละ 8,000 บาท
สินเชื่อประเภทดอกเบี้ยคงที่แบบนี้นี้เหมาะกับใคร?
สินเชื่อที่ใช้ดอกเบี้ยประเภทคงที่เหมาะกับคนที่อยากจ่ายค่างวดในจำนวนที่แน่นอนตายตัวตลอดอายุสัญญา ผ่อนเท่ากันทุกเดือน และผ่อนสบาย ๆ ในระยะเวลานานได้ เพราะต่อให้รีบโปะรีบผ่อนก็ไม่คุ้มค่า เนื่องจากโปะไปเงินต้นก็ไม่ได้ลด ไม่เกิดประโยชน์ จ่ายไปตามงวดก็พอ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินก้อนที่เอาไปหมุนได้เป็นระยะเวลานาน ผ่อนสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ย
หลังจากทำความรู้จักกับดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ทั้ง 2 แบบแล้ว กรุงศรี ออโต้ ชวนมาดูเคล็ดลับเลือกสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้คุ้มค่าและเหมาะกับเราที่สุดกัน

วิธีเลือกสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถให้คุ้มค่าที่สุด
1. เปรียบเทียบยอดวงเงินที่ได้รับ
วงเงินที่ได้ จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับรถที่นำมารีไฟแนนซ์ โดยพิจารณาจากรุ่นของรถ ปีที่จดทะเบียน และอายุการใช้งานของรถ ซึ่งจะนำมาประเมินเป็นวงเงิน บางที่จะให้กู้ได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน และบางที่ก็จะให้ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน ถ้าอยากรู้ว่ารถของคุณประเมินเบื้องต้นเท่าไหร่ คลิกประเมินได้ด้วยตัวเองฟรี!
2. เลือกประเภทดอกเบี้ย
ดูความต้องการในการใช้เงินและความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง ถ้าแค่ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน และสามารถหาเงินต้นมาปิดได้ไว ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกคุ้มกว่า แต่ถ้าอยากผ่อนสบาย ๆ ใช้เวลานานหน่อย ดอกเบี้ยแบบคงที่เหมาะกว่า
3. หากเลือกดอกเบี้ยแบบคงที่ มองหาอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ถ้าเลือกได้แล้วว่าจะขอสินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่ ให้มองหาอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะเป็นอัตราที่คิดไว้คงที่ตลอดระยะเวลาในสัญญา ค่างวดเท่าเดิมตลอดการกู้
4. เลือกระยะเวลาในการผ่อนที่เหมาะสม
ระยะเวลาในการผ่อน มีทั้งผ่อนต่อเดือนน้อยแต่เป็นหนี้นาน และผ่อนต่อเดือนแพงหน่อยแต่เป็นหนี้สั้น ควรคำนวณเรื่องระยะเวลาให้ดี อย่ามองค่างวดต่อเดือนที่ถูกเป็นหลัก เพราะหากระยะเวลาผ่อนนาน หมายความว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยนานด้วยเช่นกัน กลายเป็นว่าโดยรวมแล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่าแบบการผ่อนค่างวดต่อเดือนสูงแต่ผ่อนสั้น
ดังนั้นพิจารณาให้เหมาะสมว่าดอกเบี้ยแบบไหนเหมาะกับความสามารถในการชำระเงินของเรา เพื่อให้เลือกได้อย่างคุ้มค่า
- ผ่อนต่อเดือนน้อยแต่เป็นหนี้นาน เหมาะกับ คนที่อยากผ่อนต่อเดือนเท่า ๆ เดิม เพื่อช่วยในการวางแผนรายจ่าย ไม่ให้กระทบกับภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- ผ่อนต่อเดือนแพงหน่อยแต่เป็นหนี้สั้น เหมาะกับ คนที่มีแผนการใช้เงินระยะสั้น และเห็นอนาคตอันใกล้ว่าจะมีเงินก้อนเพื่อทยอยโปะหนี้ได้
สรุป
เลือกขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ กับ คาร์ฟอร์แคช ที่มีสินเชื่อให้เลือกหลากหลาย สมัครง่าย อนุมัติไว เปลี่ยนรถเป็นเงินก้อนที่เลือกได้ตามความเหมาะสมด้วยสินเชื่อที่หลากหลาย พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
- ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก และดอกเบี้ยแบบคงที่
- ระยะเวลาให้เลือกผ่อนสูงสุด 84 เดือน
- วงเงินสูงเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์* จากราคาประเมิน
- ไม่ต้องมีคนค้ำ กรณีเป็นสัญชาติไทย
คาร์ฟอร์แคช
เปลี่ยนรถยนต์คู่ใจเป็นเงินสด ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสบายแบบคงที่ จ่ายเท่าเดิมตลอดสัญญา สนใจ คลิกที่นี่
คาร์ฟอร์แคช โปะ
สินเชื่อรถยนต์คู่ใจแบบโปะได้ด้วย ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ยิ่งโปะยิ่งหมดไว ไม่ต้องโอนทะเบียน ดูข้อมูลต่อ คลิก
คาร์ฟอร์แคช พร้อมใช้
รีไฟแนนซ์กับคาร์ฟอร์แคช ไม่ต้องโอนทะเบียน แถมได้สินเชื่อเงินหมุนเวียนเป็นเงินสำรองพร้อมใช้ ทุกครั้งที่จ่ายค่างวดในแต่ละเดือน จะได้รับวงเงินสำหรับเบิกถอนเพิ่มขึ้นจากจำนวนเงินต้นที่คืนกลับเข้ามา ถ้าวงเงินสำรองพร้อมใช้ในมือตลอด ต้องเลือกพร้อมใช้ คลิก
คาร์ฟอร์แคช อยู่เคียงข้างคุณทุกสถานการณ์
ประเมินวงเงินและสมัครสินเชื่อรถยนต์ หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์กับคาร์ฟอร์แคช ออนไลน์ได้เลย คลิก
หมายเหตุ: กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว