เลือกรีไฟแนนซ์แบบโอนทะเบียน หรือ ไม่โอนทะเบียนแบบไหนให้คุ้มสุด

รีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนทะเบียน ต่างกับ แบบโอนทะเบียนยังไง เลือกแบบไหนถึงจะคุ้ม

13 กันยายน 2566

รีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อรับเงินก้อนเสริมสภาพคล่องนั้น มีหลายรูปแบบแต่ละแบบก็เหมาะกับความต้องการของผู้ขอสินเชื่อแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์ให้ได้คุ้มค่ามากที่สุด มาทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถ 2 รูปแบบกันก่อน แบบแรก คือ การรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบโอนทะเบียน กับ แบบที่สอง คือ รีไฟแนนซ์แบบไม่โอนทะเบียน ทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุด

ความแตกต่างระหว่างสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์โอนทะเบียน กับ ไม่โอนทะเบียน

สินเชื่อทั้ง 2 ประเภทเหมือนกันตรงที่ว่า ผู้ขอสินเชื่อต้องการนำรถของตนเองมาเป็นหลักประกันเพื่อรับเงินก้อนไปเสริมสภาพคล่อง หรือ นำไปใช้จ่ายตามต้องการ โดยรถที่นำมาขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์นั้น อาจจะเป็นรถที่ผ่อนหมดแล้ว หรือรถที่ยังผ่อนไม่หมดก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้ ส่วนความแตกต่างของการรีไฟแนนซ์ทั้งสองแบบมีดังนี้

• สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบโอนทะเบียน

ส่วนรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบโอนทะเบียน เป็นการนำรถของตนเองไปเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้ทันที แต่ต้องทำเรื่องโอนเล่มไปให้กับบริษัทไฟแนนซ์ที่ขอสินเชื่อ ส่วนรถก็ยังสามารถใช้งานได้ปกติเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่าแบบไม่โอนทะเบียน เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งผู้ขอสินเชื่อประเภทนี้จะผ่อนชำระค่างวดพร้อมดอกเบี้ยเท่ากันทุกๆ เดือนจนครบสัญญา

• รีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนทะเบียน

สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนทะเบียน ผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนรถไปเป็นชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ที่ขอสินเชื่อ เพียงแค่ทำเรื่องโอนลอยเอาไว้ กรรมสิทธิ์ในการครอบครองรถจึงยังเป็นของตัวเอง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ โดยยังนำรถไปใช้ทำงาน หรือ ใช้ส่วนตัวได้เหมือนเดิม ส่วนเรื่องการผ่อนชำระก็สามารถที่จะผ่อนชำระได้มากกว่าที่กำหนดไว้ ทำให้ระยะเวลาในการชำระสั้นลง อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ยิ่งชำระมากเงินต้นก็จะลดลงดอกเบี้ยก็ลดลง

เลือกสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไหนให้คุ้มค่ามากที่สุด

เลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไหนให้คุ้มค่ามากที่สุด

เมื่อทราบถึงความแตกต่างระหว่างการรีไฟแนนซ์ทั้ง 2 ประเภทแล้ว จะเลือกใช้บริการแบบไหนดีให้ตอบโจทย์ ให้พิจารณาถึงความต้องการ หรือ ความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก เช่น หากต้องการใช้เงินก้อนเยอะ ต้องการผ่อนแบบเงินต้นคงที่ การขอรีไฟแนนซ์แบบโอนทะเบียนจะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าต้องการเงินไปหมุนต่อยอดธุรกิจ และสามารถหาเงินมาชำระคืนได้เร็วในอนาคตอันใกล้ สินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบไม่โอนทะเบียนก็ดูน่าจะเหมาะสม

ในส่วนของความคุ้มค่า หรือ ความเสี่ยงของการรีไฟแนนซ์นั้น แนะนำให้มองหาสถาบันการเงินหรือบริษัทรีไฟแนนซ์ที่น่าเชื่อถือ ศึกษาเงื่อนไข ข้อกำหนด อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนตัดสินใจ เพื่อรับเงินก้อนอย่างคุ้มค่า และเกิดความเสี่ยงต่ำที่สุด

สรุป

สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบโอนทะเบียน เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินก้อนเยอะ และต้องการผ่อนแบบเงินต้นคงที่ ส่วนสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์แบบไม่โอนทะเบียน เหมาะกับคนที่หมุนเงินต่อยอดธุรกิจ หาเงินมาชำระคืนได้เร็ว ยิ่งชำระมากเงินต้นก็จะลดลง ดอกเบี้ยก็ลดลง

หากใครที่กำลังต้องการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ หรือสินเชื่อรถเพื่อรับเงินก้อน เสริมสภาพคล่อง คาร์ ฟอร์ แคช ให้บริการรีไฟแนนซ์ทั้ง แบบโอนทะเบียน ที่มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 3.18% - 8.17% ต่อปี* ผ่อนดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ หรือ แบบไม่โอนทะเบียน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 12.00% - 18.00% ต่อปี* ผ่อนแบบลดต้นลดดอก สามารถประเมินวงเงินและขอสินเชื่อได้เลยทางเว็บไซต์

*ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2566